Rating: | ★★★ |
Category: | Movies |
Genre: | Drama |
แต่ก็ลองถามดูว่ามีที่ว่างหรือเปล่า ปรากฏว่าเต็ม
อีกสองวันถัดมาก็เต็มอีก ผมเลยชักสงสัย หนังไทยมีด้วยเหรอขายบัตรหมด
ครั้งที่สามถัดมาอีกวันผมถึงได้ดู ได้นั่งเก้าอี้เสริม
ไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าหนังอะไรของใคร กลัวเป็นหนังเกย์อย่างเดียว
พอดูแล้ว ไม่ธรรมดาเลย ฉายที่ลิโด้ กับเมเจอร์กับ Esplanade รัชดา
ผมว่าหนังจบมีชื่อนักแสดงและทีมงานขึ้นแล้วคนดูไม่เดินออกนี่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จนะ
หนังมันทิ้งอะไรไว้ให้คนดู ไม่ใช้ดูแล้วจบแล้วจบเลย สนุกแต่ไม่ได้อะไร
กำกับภาพยนตร์ คงเดช จาตุรันต์รัศมี
ผมชอบตั้งแต่ได้ยิน Debussy แล้ว ที่ให้ความรู้สึกลอยๆภวังค์
หนังเป็นเรื่องของ เล็ก ช่างทำกุญแจ ชีวิตเหมือนจะไม่มีอะไร ไม่เคยมีรัก
วันๆก็ก๊อปปี้กุญแจเป็นหลัก กับ ก้อง คนขายหนังสือที่มีความหลังชีวิตรักที่แตกแยกสมัยเรียนหนังสือ ปรารถนาจะหา
วัตถุดิบหาประสบการณ์ในชีวิตเพื่อการเป็นนักเขียน เมื่อทราบว่าเล็กสามารถเปิดกุญแจอะไรก็ได้
เขาจึงชักชวนกันเปิดเข้าไปในห้องคนอื่นเพื่อดูเพื่อรู้ชีวิตของผู้อื่น จนมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น
แล้ววันหนึ่งก้องก็หายไป เล็กจึงตัดสินใจ
เข้าไปดูในห้องของก้อง และพบกับความทรงจำต่างๆที่หนังเอามาเล่าสลับไปมา
จนดูๆไปจะเริ่มลอยเลือนอะไรคือจินตนาการอะไรคือสิ่งที่เอาชีวิตของคนอื่นมาสวมใส่ อะไรคือของจริง
คีย์หลักๆคือองค์ประกอบของตัวเราล้วนแต่ขโมยมาจากผู้อื่น จากสิ่งแวดล้อมที่ประสบ เพลงที่ฟัง
หรือประสบการณ์อันเลวร้าย แล้วก็ก๊อปปี้เอามาเป็นตัวเรา แม้กระทั่งจินตนาการหรือความทรงจำก็ถูกเขียนถูกลบ
ถูกเปลี่ยนแปลงโดยหัวใจที่บิดเบือน สุดท้ายเหลืออะไรที่เป็นแต่เพียงผู้เดียว
(คือฟังชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ My Only Own จะเข้าใจได้ตรงกว่า)
Director Statement แรงบันดาลใจผู้กำกับ
หากแม้แต่ภาพในจินตนาการที่ชัดเจนยังสามารถแปลงร่างกลายเป็นความทรงจำ สิ่งที่คิดขึ้นมาเองด้วยความทึกทักยังกลายเป็นความเชื่อและสิ่งที่เกิดขึ้นจริงอาจจะถูกบันทึกไว้ – ถูกลบให้สูญหาย - และถูกเขียนขึ้นใหม่อย่างบิดเบือน ทั้งจากฝีมืออันชำนิชำนาญและความยอกย้อนของหัวใจ ทั้งจากผู้อื่น และแม้กระทั่งตัวเราเอง
หากชีวิตคือการหยิบยืมเรื่องราวจากผู้อื่นมาต่อยอดชีวิตเราออกไป นำมาทำสำเนา หรือดัดแปลงจนเป็นของเรา และสุดท้ายก็ส่งต่อกันไปผ่านมือกันครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วจะหลงเหลือสิ่งใดที่เป็นของเรา.......... แต่เพียงผู้เดียว
คงเดช จาตุรัตน์รัศมี
30 มีนาคม 2554
ref: http://movie.kapook.com/view30829.html
http://www.thaicinema.org/kits318taetherphoodiao.asp
จริงๆผมไม่ใช่นักดูหนังเลย ยังงงอยู่ว่าทำไมเขียนแต่เรื่องหนัง
เข้าท่า
ReplyDeleteโอ้วววววววว เยี่ยมเลยค่ะ เดี๋ยวจะกลับมาอ่านรายละเอียด
ReplyDeleteดูที่จั่วหัว ดูป้ายปิดหนัง ก็น่าสนใจทีเีดียวค่ะ
คือว่าดูจบคนบ่นไม่เข้าใจบานนะครับ แต่ว่าไม่ต้องเข้าใจ แค่รู้สึกก็พอ
ReplyDeleteกลัวว่าจะไม่ได้ดูโรงค่ะ
ReplyDeleteน่าดู เสียดายไม่ได้ไปกรุงเทพ
ReplyDeleteจะไปดูเหมือนกันครับ
ReplyDeleteปรากฎว่าผิดคาด เต็มซะงั้น
จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็เลยยังไม่ได้ไปดู